เรื่องเล่า คนที่ควรมาก็ไม่มา

สรุป: 
เรื่องนี้เป็นการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน การพูดลอยๆ ที่ไม่ชัดเจน ทำให้คนรอบข้างเข้าใจผิดได้
รายละเอียด: 

นิทานเรื่องนี้เกิดขึ้นในการสัมมนาแห่งหนึ่ง คนที่จัดงานสัมมนาได้เชิญศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์มาปราศรัย คนที่มาร่วมประชุมส่วนหนึ่งได้รีบบัตรเชิญมา แต่อีกส่วนหนึ่งเป็นคนที่อาสาสมัครมาเองอย่างอิสระ เมื่อถึงเวลาปราศรัยทุกคนที่มาร่วมงานก็มากันเต็มห้องครบทุกคน แต่ศาสตราจารย์ยังมาไม่ถึง เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชม. พวกคนที่มาร่วมประชุมเริ่มหมดความอดทน แต่ละคนเริ่มคุยกันเองและนินทากันต่างๆนานา สถานการณ์เสียงดังวุ่นวาย เวลานั้นผู้ดำเนินรายการก็เห็นสภาพในที่ประชุมเป็นเช่นนั้น ก็บ่นว่า ทำไมคนที่มาปราศรัยยังไม่มา เขาก็พูดกับผู้ช่วยอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างเวทีว่า “คนที่ควรมาก็ไม่มา คนที่ไม่ควรมาก็มา” แต่ความหมายที่แท้จริงคือ ศาสตราจารย์คนนั้นควรจะมาแล้ว ผู้ดำเนินรายการคนนี้พูดไปโดยไม่ชัดเจน ที่จริงควรจะพูดว่า คนที่จะมาก็ได้ไม่มาก็ได้ ไม่มีความจำเป็นเท่าไหร่ก็มาแล้ว แต่ผู้ดำเนินรายการคนนั้นยืนอยู่ไม่ไกลจากไมโครโฟน คำที่บ่นไปนั้นจึงทำให้คนที่มาร่วมประชุมได้ยินกันถ้วนหน้า จึงทำให้คนที่มาเองอย่างอิสระนั้นเข้าใจผิด และไม่พอใจจึงเดินออกจากห้องประชุมกลับไปหมด ผู้ดำเนินรายการเห็นเช่นนั้นเขาก็รีบอธิบายให้คนที่กำลังจะออกจากที่ประชุมฟังว่า ฉันไม่ได้บอกว่าพวกคุณไม่ควรมา พอคนที่ได้รับบัตรเชิญได้ยินดังนั้นก็เข้าใจผิดคิดว่าเป็นพวกเขาเองที่ไม่ควรมา ถ้าอย่างนั้นบัตรเชิญที่ให้มาก็ไม่ได้เชิญด้วยความจริงใจจึงพากันเดินออกมากลับบ้านกันหมด พอผู้ช่วยผู้ดำเนินรายการเห็นดังนั้นก็ต่อว่าผู้ดำเนินรายการว่า พูดไปอย่างนั้นไม่มีความรับผิดชอบ ทำให้ผู้มาร่วมประชุมกลับกันหมด ผู้ดำเนินรายการรู้สึกว่าผู้ช่วยผู้ดำเนินรายการเข้าใจผิด ที่จริงเขาไม่ได้ตั้งใจบอกคนที่มาร่วมประชุมว่าไม่ควรมา ผู้ช่วยฯ พอได้ยินดังนั้นก็คิดว่า ถ้างั้นก็ว่าเขาคนเดียว เขาจึงกลับบ้านเช่นกัน

ตำแหน่งที่ตั้ง: 
รายละเอียดตำแหน่งที่ตั้ง: 

99/7 พระปิ่นเกล้า บางกอกน้อย กรุงเทพมหานครฯ